พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร คล้องเดี่ยวพระกริ่งปวเรศ





"ผมเป็นผู้ที่ชอบสะสมพระเครื่อง ด้วยถือว่าเป็นงานพุทธศิลปะของไทยโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นทหารที่มีหน้าที่หลักคือการปกป้องอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะต้องมีวัตถุมงคลเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตน จึงได้ศึกษาพุทธประวัติของพระเกจิดังๆ ในอดีตมากมาย ซึ่งแต่ละรูปมีวัตถุมงคลที่ดีแตกต่างกัน"

 เป็นคำกล่าวของ "บิ๊กตุ้ย" หรือ "พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร" อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด, อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีตนายกสมาคมฟันดาบแห่งประเทศไทย


 เกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2488 เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 5 (ตท.5) และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ (จปร.) รุ่นที่ 16 เหล่าทหารช่าง จบจากโรงเรียนนายร้อยฯ เมื่อปีพ.ศ.2511 ได้รับพระราชทานยศเป็นว่าที่ร.ต. ในตำแหน่งผู้บังคับหมวดทหารช่าง สังกัดกองพันทหารช่างที่ 4


 ชีวิตราชการเติบโตในรั้วสีเขียวจากสายทหารช่างมาโดยตลอด จนได้ขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดในกองทัพ


 บิ๊กตุ้ยเป็นนายทหารที่มีลักษณะโดดเด่นทั้งบู๊และบุ๋น ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. อีกทั้งเป็นนายทหารที่ชื่นชอบการเก็บสะสมพระเครื่องอีกคนหนึ่ง ที่สำคัญเป็นคนที่ชอบทำบุญ หากมีเวลาในช่วงวันหยุดมักพาครอบครัวเข้าวัดอยู่เป็นประจำ


 "ผมชอบทำบุญมานานแล้ว ซึ่งเมื่อเติบโตตามสายงานข้าราชการทหาร พอมีตำแหน่งหน้าที่ที่รับผิดชอบมากขึ้น การเข้าวัดทำบุญก็มีเวลาน้อยลง พอหลังจากเกษียณอายุราชการก็ได้เข้าวัดทำบุญมากขึ้น ไปกับครอบครัวบ้าง ไปคนเดียวบ้าง แล้วแต่โอกาส ซึ่งวัดบางแห่งที่รู้ว่าผมชอบทำบุญก็จะติดต่อผ่านมาทางนายทหารคนสนิท ให้เข้าไปช่วยดูแลบูรณะเสนาสนะภายในวัด ผมก็จะร่วมทำบุญทุกวัด"


 สำหรับพระเครื่องที่ บิ๊กตุ้ย มีเก็บสะสมอยู่นั้น ส่วนใหญ่เป็นสมบัติตกทอดจากรุ่นคุณพ่อ และจากการเก็บสะสม จากที่ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือมอบให้มา รวมทั้งจากการไปรับราชการเกือบทั่วประเทศ หรือชาวบ้านในพื้นที่มอบให้ด้วยความรักและปรารถนาดี


 "ความจริงผมก็ไม่ได้ศึกษาในเรื่องของพระอย่างลึกซึ้งมากเท่าไรนักแต่เป็นคนชอบ เก็บสะสมมากกว่า เพราะเมื่อสมัยหนุ่มๆ ได้ไปราชการสนามประจำ ชาวบ้านหรือลูกน้องซึ่งเป็นคนในพื้นที่ก็นำมามอบให้เป็นขวัญและกำลังใจอยู่เสมอ"


 สำหรับพระเครื่องที่คล้องติดตัวอยู่ประจำทุกวัน พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า

 "ช่วงก่อนหน้านี้เป็นพระสมเด็จวัดระฆังฯ แต่ตอนนี้คล้องเดี่ยวพระกริ่งปวเรศ ที่ได้รับมอบจากพระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมังคโล) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่ ท่านบอกว่าเป็นพระกริ่งที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี"


 บิ๊กตุ้ย บอกเล่าว่า หลังจากที่ได้รับมอบพระกริ่งปวเรศ จึงศึกษาประวัติพระกริ่ง เชื่อว่ามีพุทธคุณที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นมวลสารที่ผสมอยู่ในองค์พระ ที่เป็นมวลสารที่เป็นสิริมงคล ประกอบกับการจัดทำพิธีพุทธาภิเษกที่มีการสวดบทวิชาคาถาที่เป็นสิริมงคลทั้งสิ้น พระที่มาร่วมพิธีนั่งปรกอธิษฐานจิตก็เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หรือเป็นพระสุปฏิปันโนอยู่แล้ว เนื้อแท้แล้วคิดว่าการมีพระเครื่องติดตัวเพื่อให้คนได้ยึดเหนี่ยวทำความดี ให้ปกปักรักษาคุ้มครองตัวเราตลอดไป ควรระลึกอยู่เสมอว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว


 "ขอฝากแง่คิดในการใช้ชีวิตให้กับบรรดาคนที่นิยมพระเครื่องเอาไว้ด้วยว่า ทุกครั้งที่อาราธนาพระขึ้นคอขอให้สวดมนต์ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พร้อมทั้งตั้งสติให้การดำรงชีวิตในแต่ละวันอย่างไม่ประมาท ชีวิตก็จะเป็นสุข"


 "ผมเชื่อในการทำความดี พระเครื่องก็เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้ยึดมั่นทำแต่สิ่งที่ดี แต่จะทำให้เราเป็นคนดีไม่ได้ถ้าเราไม่ปฏิบัติด้วยตัวของเราเอง และการทำความดียังเป็นเกราะป้องกันตัวเราเองให้รอดพ้นจากภยันตรายต่างๆ ได้อย่างแน่นอน" พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวทิ้งท้าย
 

Share on Google Plus

About komjungisat

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

TEXT WIDGET

Blogger Template

About

Social Profiles

กดไลค์ = 1 กำลังใจ คลิกที่ว่างหรือกดกากบาทข้างล่างเพื่อเข้าอ่านข้อมูล หากคลิกแล้วเด้งไม่ต้องตกใจ ที่เด้งเพราะโฆษณาไม่ใช่ไวรัสค่ะ

Powered By | Blog Gadgets