คดีหนุ่มอเมริกันหายตัวปริศนาไป 7 ปีคลี่คลายอย่างสยอง เมื่อสุดท้ายพบกลายเป็นซากศพติดแหง็กคาปล่องไฟบ้านร้าง เจ้าของบ้านเผย เคยได้กลิ่นเหม็นเน่า แต่คิดว่าเป็นหนูตาย
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยเหตุการณ์ชวนสยอง หลังจากเมื่อปี 2551 มีรายงานว่า นายโจชัว เวอร์นอน แมดดักซ์ หนุ่มวัยรุ่นชาวอเมริกันวัย 18 ปี หายตัวไปจากบ้านในเมืองวู้ดแลนด์ รัฐโคโลราโด จนกระทั่งเมื่อเดือนที่ผ่านมาคนงานก่อสร้างได้พบศพของนายโจชัว ติดคาอยู่ในปล่องไฟที่บ้านร้างแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติวู้ดแลนด์ มานานกว่า 7 ปี
จากรายงานระบุว่า สภาพศพที่พบนั้นอยู่ในท่าที่แปลกพิสดารคือ หัวเข่าขึ้นไปอยู่เหนือศีษะส่วนช่วงขาก็หลุดออกมาจากลำตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นศพของใคร จึงจำเป็นต้องข้อมูลทางทัตกรรมมาระบุและพบว่าเป็นศพของนายโจชัว ที่หายตัวไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
ทางเจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานว่า เนื่องจากนายโจชัวเป็นคนร่างสูงและผอมบาง อาจจะพยายามปีนลงไปด้านล่างผ่านปล่องไฟ แต่กลับติดคาอยู่ด้านในจนเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตเช่นนี้ ทั้งนี้คนงานที่พบศพเผยว่า มีเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ขว้างกั้นปล่องภายในปล่องไฟ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นสาเหตุให้เขาไม่สามารถลงไปหรือออกมาจากปล่องไฟได้ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ระบุสาเหตุการตายของนายโจชัว ว่า เกิดจากอุบัติเหตุและไม่พบร่องรอยของบาดแผลอื่นใด อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า โจชัวติดคาปล่องไฟในสภาพนี้มานานเท่าไร
ด้านชัค เมอร์ฟี เจ้าของบ้านหลังที่พบศพโจชัวเผยว่า พ่อแม่ของเขาซื้อบ้านหลังนี้มานานกว่า 60 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นบ้านพักของกลุ่มแก๊งการพนันและปาร์ตี้กลางป่า และพี่ชายของเขาก็เคยอาศัยอยู่ที่นี่ก่อนที่จะย้ายออกไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครเข้าไปอยู่ที่บ้านหลังนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ทั้งนี้เขาก็คอยเข้าไปตรวจสอบบ้านเป็นครั้งคราวและพบว่ามีกลิ่นเหม็น แต่คิดว่าเป็นกลิ่นของหนูตาย ส่วนตรงปล่องไฟนั้นมีเฟอร์นิเจอร์ขวางอยู่จึงไม่ได้ตรวจสอบแต่อย่างใด กระทั่งตนต้องการจะรื้อบ้านทิ้งจึงจ้างคนงานมาจัดการและพบศพดังกล่าว
หลังจากทราบข่าว ด้านครอบครัวของโจชัวเสียใจเป็นอย่างมาก พวกเขาเผยว่าเผยว่า เขาเป็นคนร่าเริง มีพรสวรรค์ด้านการเล่นดนตรี และเรียนดี พวกเขาไม่แน่ใจว่าทำไมโจชัวถึงไปติดอยู่ในปล่องไฟเช่นนั้นได้ ทั้งนี้ยังได้เล่าว่า แซคคารี พี่ชายของเขาได้ฆ่าตัวตายก่อนที่โจชัวจะหายตัวไป 2 ปี แต่ทั้งนี้ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกับการที่โจชัวหายตัวไปหรือไม่แต่อย่างใด เมื่อคราวที่โจชัวหายตัวไป พวกเขาใช้เวลาตามหากันนานเป็นปีแต่ก็ไม่พบร่องรอยใด ๆ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกชื่อขอโจชัวว่ากลายเป็นผู้หายสาบสูญ
ด้านพี่สาวของโจชัวเล่าว่า เมื่อครั้งที่น้องชายหายตัวไป ครอบครัวพยายามทำใจและคาดเดาว่าเขาคงหนีออกไปจากเมือง เพื่อไปลองใช้ชีวิตศิลปินหรือเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไหนสักแห่ง เนื่องจากขณะนั้นโจชัวเองอายุเพียงแค่ 18 ยังเป็นวัยรุ่นวัยคึกคะนองอยู่ เธอเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับมาที่บ้านพร้อมกับภรรยา และลูก ๆ น่ารัก ๆ อย่างแน่นอน ทว่ากลับมาพบว่าเขากลายเป็นศพไปเสียแล้ว นับว่าเป็นความสูญเสียอย่างมากสำหรับครอบครัวนี้ที่ต้องมาเสียลูกชายไปทั้ง 2 คน ยากที่พวกเขาจะทำใจยอมรับได้
ภาพจาก fakt.pl
Blogger Comment
Facebook Comment